• Bookmark
• Tweet
• Share
• PM

เพื่อนๆ คนไหนที่ตอนนี้ว่าง และสนใจอยากลงทุน โดยไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง เพราะตอนนี้กระแสการลงทุนเริ่มมมีมากขึ้น สิ่งที่จำเป็นที่สุดในการลงงทุนนั้นก็คือ การเฃือก โบรกเกอร์ เราควรเลือก โบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อการเทรดที่สบายใจ โดยหลักในการดูความมั่นคงของโบรกเกอร์ Forex หลักๆ มี 3 ข้อ ดังนี้

1. จำนวนใบอนุญาติ หรือ License ที่โบรกเกอร์มี
จะต้องดูถึงที่มาที่ไปของ license ด้วย ว่าอยู่ในพื้นที่ใด ครอบคลุมถึงประเทศใดบ้าง บางประเทศก็มีข้อกำหนดมากมาย ทำให้การขอ license ค่อนข้างยาก เช่น อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา , ออสเตรเลีย ฯลฯ

ด้วยเหตุดังกล่าวการที่โบรกเกอร์ ได้ license จากประเทศเหล่านี้ หรือมี License หลายๆที่ ก็ย่อมมีภาษีที่ดีกว่า เพราะว่าหมายถึงเงินประกันที่เยอะขึ้นนั่นเอง



2. ดูขนาดองค์กร แน่นอนว่ายิ่งโบรกเกอร์พวกเราเป็นบริษัทใหญ่ ย่อมควรจะมีความปลอดภัยระดับนึง
แต่ว่าก็มีบริษัทหลอกลวงที่ยอมลงทุนจัดงานที่โรงแรม 5 ดาวเหมือนกัน เพื่อความน่าเชื่อถือ แต่ว่าเราแนะนำให้ดูจาก ออฟฟิศของบริษัท ถ้าหากเป็นออฟฟิศขนาดใหญ่ มีห้องอบรม สัมมนา มีสือการสอนที่ทันสมัย พร้อมต้อนรับลูกค้าเป็นจำนวนมาก แบบนี้จะดูน่าเชื่อถือกว่านะคะ เนื่องจากว่าต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก



3. ดูว่าโบรกเกอร์ forex นั้น มีตราสารให้เทรด มากน้อยชนิด แค่ไหน
ซึ่งโบรกเกอร์ จะต้องทำการ Feed ราคามาจาก LP (Liquid Provider) ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเป็นแพคเกจ สำหรับแพคเกจมาตรฐาน จะ Feed เพียงแค่ราคา Forex เงินและทองคำ

แต่ว่าถ้าหากอยากได้สินค้าอื่นๆตัวอย่างเช่นพวก CFDs กลุ่มโลหะ หรือกลุ่มพลังงาน ก็จะต้องจ่ายค่าแพคเกจที่เพิ่มขึ้นด้วย

ไหนจะมีค่าโปรแกรม MT4 ที่มีค่าเช่า 3 ล้านกว่าบาทต่อปีอีก รวมๆแล้วก็เป็นเงินไม่น้อยเลย

ยิ่งโบรกเกอร์ที่มีสินค้าให้เราเทรดเยอะ นั่นหมายถึงเงินลงทุนที่สูงมากขึ้น ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าโบรกเกอร์นี้มีความมั่นคงสูง ฐานะทางด้านการเงินดี เราในฐานะผู้เทรด Forex ก็เทรดได้อย่างสบายใจ

[ladyMP]

• Bookmark
• Tweet
• Share
• PM

เพื่อนๆ คนไหนที่ตอนนี้ว่าง และสนใจอยากลงทุน โดยไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง เพราะตอนนี้กระแสการลงทุนเริ่มมมีมากขึ้น สิ่งที่จำเป็นที่สุดในการลงงทุนนั้นก็คือ การเฃือก โบรกเกอร์ เราควรเลือก โบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อการเทรดที่สบายใจ โดยหลักในการดูความมั่นคงของโบรกเกอร์ Forex หลักๆ มี 3 ข้อ ดังนี้

1. จำนวนใบอนุญาติ หรือ License ที่โบรกเกอร์มี
จะต้องดูถึงที่มาที่ไปของ license ด้วย ว่าอยู่ในพื้นที่ใด ครอบคลุมถึงประเทศใดบ้าง บางประเทศก็มีข้อกำหนดมากมาย ทำให้การขอ license ค่อนข้างยาก เช่น อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา , ออสเตรเลีย ฯลฯ

ด้วยเหตุดังกล่าวการที่โบรกเกอร์ ได้ license จากประเทศเหล่านี้ หรือมี License หลายๆที่ ก็ย่อมมีภาษีที่ดีกว่า เพราะว่าหมายถึงเงินประกันที่เยอะขึ้นนั่นเอง



2. ดูขนาดองค์กร แน่นอนว่ายิ่งโบรกเกอร์พวกเราเป็นบริษัทใหญ่ ย่อมควรจะมีความปลอดภัยระดับนึง
แต่ว่าก็มีบริษัทหลอกลวงที่ยอมลงทุนจัดงานที่โรงแรม 5 ดาวเหมือนกัน เพื่อความน่าเชื่อถือ แต่ว่าเราแนะนำให้ดูจาก ออฟฟิศของบริษัท ถ้าหากเป็นออฟฟิศขนาดใหญ่ มีห้องอบรม สัมมนา มีสือการสอนที่ทันสมัย พร้อมต้อนรับลูกค้าเป็นจำนวนมาก แบบนี้จะดูน่าเชื่อถือกว่านะคะ เนื่องจากว่าต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก



3. ดูว่าโบรกเกอร์ forex นั้น มีตราสารให้เทรด มากน้อยชนิด แค่ไหน
ซึ่งโบรกเกอร์ จะต้องทำการ Feed ราคามาจาก LP (Liquid Provider) ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเป็นแพคเกจ สำหรับแพคเกจมาตรฐาน จะ Feed เพียงแค่ราคา Forex เงินและทองคำ

แต่ว่าถ้าหากอยากได้สินค้าอื่นๆตัวอย่างเช่นพวก CFDs กลุ่มโลหะ หรือกลุ่มพลังงาน ก็จะต้องจ่ายค่าแพคเกจที่เพิ่มขึ้นด้วย

ไหนจะมีค่าโปรแกรม MT4 ที่มีค่าเช่า 3 ล้านกว่าบาทต่อปีอีก รวมๆแล้วก็เป็นเงินไม่น้อยเลย

ยิ่งโบรกเกอร์ที่มีสินค้าให้เราเทรดเยอะ นั่นหมายถึงเงินลงทุนที่สูงมากขึ้น ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าโบรกเกอร์นี้มีความมั่นคงสูง ฐานะทางด้านการเงินดี เราในฐานะผู้เทรด Forex ก็เทรดได้อย่างสบายใจ