• Bookmark
• Tweet
• Share
• PM

สวัสดีค่ะ ทุกคน ยังรอดกันอยู่ใช่มั้ย ถ้าเราผ่านวิกฤติโควิดได้ ถือว่าพวกเราเเข็งแกร่งกันมากเลยก็ว่าได้ 5555 เชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนอยากรวย อยากเป็นอิสระทางการเงิน แต่การอยู่ในประเทศไทย การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ดังนั้น การที่จะทำเงิน ก็คือการทำงาน แต่อัตราเงินเฟ้อก็เพิ่มขึ้นทุกปี หลายคนเลือกที่จะลงทุน เพื่อเพิ่มมูลค่า แต่ก็มีหลากหลาย ดังนั้นเราควรศึกษากันให้ถี่ถ้วนก่อนลงทุน ไม่งั้นจะเป็นเม่า นะจ้า และวันนี้มาดู เทรดอย่าไรให้รอดในตลาด Forex  โดยมี 2 ข้อหลักๆ ที่จำเป็นต้องรู้จ้า

1. ระบบเทรด Forex ที่ดี

ระบบเทรด Forex ที่ดี ถือว่าเป็นปัจจัยหลักสำหรับในการเทรด Forex เป็นอย่างมาก เนื่องจากในการเทรด Forex ถ้าหากว่าพวกเราไม่มีการจัดการเป็นระบบเทรดที่ดีก็ย่อมทำให้การเทรด Forex ขาดทุนได้ง่ายๆซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าระบบเทรดที่ดีเป็นอย่างไร?

จริงๆแล้วระบบเทรดที่ดีมันไม่มีข้อตายตัวแต่มีหลักการง่ายๆก็คือ ไม่โลภไม่เสี่ยงแล้วก็เทรดต้องได้กำไรมากกว่าขาดทุนแค่เท่านี้ ซึ่งพวกเราจะยกตัวอย่างให้คุณได้เห็นชัดๆอย่างเช่น การเปิดออเดอร์ด้วยล็อตต่ำๆซึ่งการที่คุณเปิดออเดอร์ด้วยล็อตต่ำๆจะเป็นการช่วยเซฟพอร์ตของคุณเพื่อไม่ให้มันขาดทุนหรือล้างพอร์ตได้ง่ายๆจากการกระชากของกราฟ การคำนวณล็อตสำหรับการเทรดก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จำเป็นที่จะช่วยทำให้คุณทำกำไรได้ง่ายและก็มีเป้าหมายอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งหลายคนมักมองข้ามสิ่งเล็กๆน้อยเหล่านี้จึงทำให้พวกเขาเทรด Forex กันขาดทุนบ่อยครั้งนั่นเอง

มาดูสูตรคำนวนตัวอย่างกันเลยดีกว่า

จากสูตรคำนวน lot size ที่เหมาะสม คิดจาก % ความเสี่ยงเทียบกับเงินทุน Lot size = Risk x Capital/ (#of pip x pip value) ตัวอย่าง ทุน 1,000$ รับความเสี่ยงที่ 5 % คือถ้าหากผิดทางยอมขาดทุนที่ 50$ โดยกำหนด Stop Loss ไว้ที่ 300 pips

แทนค่าจากสูตรจะได้

Risk(5%) x Capital (1,000) = 50$

Pip value = 300

Lot size = 50 / 300 = 0.16

สรุป ถ้าหากพวกเรามีเงินทุน 1,000 $ ยอมขาดทุน 50$ โดยกำหนด Stop loss ไว้ที่ 300 pip จำเป็นต้องใช้ขนาด Lot size = 0.16



2. Money Management

ถัดมาเป็นเรื่องของ Money Management สำหรับ Money Management ก็คือการบริหารจัดการกับเงินในพอร์ตของคุณ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งจำเป็นที่หลายๆคนไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าที่ควร สำหรับในการเทรด Forex ถ้าหากว่ามีการจัดการเงินหรือบริหารกับเงินได้อย่างเหมาะสมมันก็จะช่วยทำให้คุณทำเงินคล่องตัวขึ้น ขาดทุนน้อยลงนั่นเอง ซึ่งแนวทางสำหรับในการบริหารจัดการกับเงินในพอร์ตหรือ Money Management ก็มีอยู่มากมายหลายวิธีแต่สิ่งสำคัญหลักๆก็คือการจัดสรรเงินทุนที่มีให้ใช้ในการเทรดได้อย่างคุ้มค่า ไม่ขาดทุนแต่ต้องได้กำไร อย่างเช่นการเทรดอย่างมีเป้าหมาย การเทรด Forex อย่างมีเป้าหมายจะต้องกำหนดจุดว่าจะต้องการทำกำไรถึงเท่าไหร่ๆหรือขาดทุนจะขาดทุนวันละกี่เปอร์เซ็น ซึ่งการที่คุณมีเป้าหมายสำหรับในการเทรดเช่นนี้ก็จะช่วยทำให้คุณปลอดภัยจากความโลภและความเสี่ยงที่จะทำให้การเงินในพอร์ตของคุณขาดทุนนั่นเอง นอกจากนี้การใช้ Stop Loss และ Take Profit ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการเทรดอย่างมี Money Management เพราะว่า Stop Loss และ Take Profit เป็นเครื่องมือที่จะช่วยสำหรับในการป้องกันการขาดทุนจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและยังเป็นเครื่องมือช่วยทำกำไรให้แบบที่เรไม่ต้องปิดออเดอร์เอง หลายคนอาจจะสงสัยว่าสำคัญอย่างไร จริงๆแล้ว Stop Loss สำคัญอย่างมากสำหรับในการเทรดที่มี Money Management เพราะว่า Stop Loss จะช่วยป้องกันออเดอร์ของคุณไม่ให้มันกระชากมากเกินไปซึ่งถ้าหากว่ามันกระชากเกินไปก็เสี่ยงต่อการล้างพอร์ตแล้วทำให้ Money Management ของคุณพังนั่นเอง

[ladyMP]

• Bookmark
• Tweet
• Share
• PM

สวัสดีค่ะ ทุกคน ยังรอดกันอยู่ใช่มั้ย ถ้าเราผ่านวิกฤติโควิดได้ ถือว่าพวกเราเเข็งแกร่งกันมากเลยก็ว่าได้ 5555 เชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนอยากรวย อยากเป็นอิสระทางการเงิน แต่การอยู่ในประเทศไทย การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ดังนั้น การที่จะทำเงิน ก็คือการทำงาน แต่อัตราเงินเฟ้อก็เพิ่มขึ้นทุกปี หลายคนเลือกที่จะลงทุน เพื่อเพิ่มมูลค่า แต่ก็มีหลากหลาย ดังนั้นเราควรศึกษากันให้ถี่ถ้วนก่อนลงทุน ไม่งั้นจะเป็นเม่า นะจ้า และวันนี้มาดู เทรดอย่าไรให้รอดในตลาด Forex  โดยมี 2 ข้อหลักๆ ที่จำเป็นต้องรู้จ้า

1. ระบบเทรด Forex ที่ดี

ระบบเทรด Forex ที่ดี ถือว่าเป็นปัจจัยหลักสำหรับในการเทรด Forex เป็นอย่างมาก เนื่องจากในการเทรด Forex ถ้าหากว่าพวกเราไม่มีการจัดการเป็นระบบเทรดที่ดีก็ย่อมทำให้การเทรด Forex ขาดทุนได้ง่ายๆซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าระบบเทรดที่ดีเป็นอย่างไร?

จริงๆแล้วระบบเทรดที่ดีมันไม่มีข้อตายตัวแต่มีหลักการง่ายๆก็คือ ไม่โลภไม่เสี่ยงแล้วก็เทรดต้องได้กำไรมากกว่าขาดทุนแค่เท่านี้ ซึ่งพวกเราจะยกตัวอย่างให้คุณได้เห็นชัดๆอย่างเช่น การเปิดออเดอร์ด้วยล็อตต่ำๆซึ่งการที่คุณเปิดออเดอร์ด้วยล็อตต่ำๆจะเป็นการช่วยเซฟพอร์ตของคุณเพื่อไม่ให้มันขาดทุนหรือล้างพอร์ตได้ง่ายๆจากการกระชากของกราฟ การคำนวณล็อตสำหรับการเทรดก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จำเป็นที่จะช่วยทำให้คุณทำกำไรได้ง่ายและก็มีเป้าหมายอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งหลายคนมักมองข้ามสิ่งเล็กๆน้อยเหล่านี้จึงทำให้พวกเขาเทรด Forex กันขาดทุนบ่อยครั้งนั่นเอง

มาดูสูตรคำนวนตัวอย่างกันเลยดีกว่า

จากสูตรคำนวน lot size ที่เหมาะสม คิดจาก % ความเสี่ยงเทียบกับเงินทุน Lot size = Risk x Capital/ (#of pip x pip value) ตัวอย่าง ทุน 1,000$ รับความเสี่ยงที่ 5 % คือถ้าหากผิดทางยอมขาดทุนที่ 50$ โดยกำหนด Stop Loss ไว้ที่ 300 pips

แทนค่าจากสูตรจะได้

Risk(5%) x Capital (1,000) = 50$

Pip value = 300

Lot size = 50 / 300 = 0.16

สรุป ถ้าหากพวกเรามีเงินทุน 1,000 $ ยอมขาดทุน 50$ โดยกำหนด Stop loss ไว้ที่ 300 pip จำเป็นต้องใช้ขนาด Lot size = 0.16



2. Money Management

ถัดมาเป็นเรื่องของ Money Management สำหรับ Money Management ก็คือการบริหารจัดการกับเงินในพอร์ตของคุณ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งจำเป็นที่หลายๆคนไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าที่ควร สำหรับในการเทรด Forex ถ้าหากว่ามีการจัดการเงินหรือบริหารกับเงินได้อย่างเหมาะสมมันก็จะช่วยทำให้คุณทำเงินคล่องตัวขึ้น ขาดทุนน้อยลงนั่นเอง ซึ่งแนวทางสำหรับในการบริหารจัดการกับเงินในพอร์ตหรือ Money Management ก็มีอยู่มากมายหลายวิธีแต่สิ่งสำคัญหลักๆก็คือการจัดสรรเงินทุนที่มีให้ใช้ในการเทรดได้อย่างคุ้มค่า ไม่ขาดทุนแต่ต้องได้กำไร อย่างเช่นการเทรดอย่างมีเป้าหมาย การเทรด Forex อย่างมีเป้าหมายจะต้องกำหนดจุดว่าจะต้องการทำกำไรถึงเท่าไหร่ๆหรือขาดทุนจะขาดทุนวันละกี่เปอร์เซ็น ซึ่งการที่คุณมีเป้าหมายสำหรับในการเทรดเช่นนี้ก็จะช่วยทำให้คุณปลอดภัยจากความโลภและความเสี่ยงที่จะทำให้การเงินในพอร์ตของคุณขาดทุนนั่นเอง นอกจากนี้การใช้ Stop Loss และ Take Profit ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการเทรดอย่างมี Money Management เพราะว่า Stop Loss และ Take Profit เป็นเครื่องมือที่จะช่วยสำหรับในการป้องกันการขาดทุนจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและยังเป็นเครื่องมือช่วยทำกำไรให้แบบที่เรไม่ต้องปิดออเดอร์เอง หลายคนอาจจะสงสัยว่าสำคัญอย่างไร จริงๆแล้ว Stop Loss สำคัญอย่างมากสำหรับในการเทรดที่มี Money Management เพราะว่า Stop Loss จะช่วยป้องกันออเดอร์ของคุณไม่ให้มันกระชากมากเกินไปซึ่งถ้าหากว่ามันกระชากเกินไปก็เสี่ยงต่อการล้างพอร์ตแล้วทำให้ Money Management ของคุณพังนั่นเอง