• Bookmark
• Tweet
• Share
• PM

สวัสดีค่ะ ในปัจจุบันมีมิจฉาชีพหลากหลายรูปแบบ และมีจำนวนมาก ต้องมีสติในการโอนเงินมากๆ และถ้าหากอยากรวยก็ต้องศึกษาก่อนจะลงทุนจะรวยอย่างยั่งยืนมากกว่า และวันนี้มาดู วิธีการพัฒนากลยุทธ์การเทรดด้วยตัวเองทำอย่างไร

ขั้นแรกคือศึกษากลยุทธ์การเทรดให้มากเพียงพอ จากนั้นนำไปใช้ รวมทั้งทดสอบความรู้ในบัญชีจริงเพื่อดูว่าความรู้ไหนใช้ได้จริงใช้ไม่ได้จริง ในขั้นตอนนี้ ผู้เรียนจำเป็นจะต้องอาศัยความอดทนอย่างมาก เราต้องยึดมั่นในเจตคติของการเรียนรู้ ไม่ใช่ภาพลวงตาของความร่ำรวยในชั่วข้ามคืน คุณจะได้เผชิญกับความจริงที่ว่าการทำกำไรในตอนเริ่มเป็นเรื่องยากสำหรับคนส่วนใหญ่ มีเหตุผลหลายประการที่เทรดเดอร์คนๆนึงจะล้มเหลว แล้วก็การฝันให้ใหญ่เกินไปเมื่อเทียบกับความรู้ที่มีก็เป็นหนึ่งในนั้น

ขั้นตอนที่สองเป็นการมีข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนที่เพียงพอ ข้อมูลเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับในการเทรด เหตุผลที่ถูกต้องเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะขาดทุนจากการเทรดได้ ถ้าหากข้อมูลที่มีไม่ครอบคลุม ถูกต้อง ทันเวลา การตัดสินของคุณจะแตกต่างไปจากสิ่งที่คุณคิดโดยสิ้นเชิงเมื่อลงไปอยู่ในสนามจริง และก็คุณจะกลายผู้แพ้ไปโดยที่ยังไม่ทันออกรบเลย

เพื่อให้กระบวนการเรียนรู้วิธีการเป็นเทรดเดอร์สมบูรณ์ นอกเหนือจากการยอมลงทุนซื้อข้อมูลทางการเงินในราคาสูงแล้ว คุณจะต้องพัฒนานิสัยการเป็นผู้รวบรวมข้อมูลที่ดีด้วย หมั่นติดตามข่าวตลาดต่างประเทศทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นข่าวจากรัฐบาลสหรัฐฯ ข่าวธนาคารกลาง สุนทรพจน์ของบุคคลสำคัญ การเปลี่ยนแปลงนโยบายระดับชาติ เหตุการณ์ร้อน ฯลฯ จะต้องมีการติดตามอยู่ตลอดเวลา หรือมากเท่าที่จะทำได้

อย่างไรก็ตาม การฟังข้อความเหล่านี้เพียงครั้งเดียวไม่เพียงพอ เทรดเดอร์ต้องแก้ไขส่วนสำคัญของข้อความพวกนั้น นำมาจัดเรียงในรูปแบบความคิดที่เป็นของตัวเอง ดังเช่นว่า ในพิธีรับรองประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯเมื่อเร็วๆนี้ อย่างน้อยที่สุด คุณจะต้องรู้ว่าใครกำลังจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป นโยบายการบริหารหลักๆของเขาเป็นยังไง แม้คุณไม่มีเวลาเพียงพอในการตรวจสอบข่าวเหล่านี้ การตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และตลาดหุ้นของอเมริกาจะกลายเป็นเรื่องยากทันที

ขั้นตอนลำดับที่สามคือการควบคุมอารมณ์ของคุณ การซื้อขายด้วยตัวเองนั้นอ่อนไหวต่ออารมณ์มากกว่าการมีผู้ช่วยอัตโนมัติ เพราะเหตุว่าหุ้นยนต์ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่สนใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังของการเข้ามาลงทุนของเจ้านาย ขณะที่การซื้อขายด้วยตัวเองมีแนวโน้มว่าในระยะยาว อารมณ์อาจจะขึ้นมายืนเหนือเหตุผลได้

ยกตัวอย่างเช่น แม้คุณถือทองคำตั้งแต่ราคา 1,600 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อราคาเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นมาเป็น 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ การซื้อขายอัตโนมัติจะปฏิบัติตามเงื่อนไขของระบบอย่างเคร่งครัด ตราบใดที่ราคาของทองคำไม่ถึงระดับ take-profit ที่ $2000 คุณจะไม่ได้กำไรออกไปจากตลาดแน่นอน การซื้อขายด้วยตนเองขึ้นกับความเชื่อมั่นในความคิดตัวเอง ที่มีจ่อแนวโน้มของตลาดลงทุนในอนาคต

การปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลสำหรับในการลงทุนไม่ใช่ที่ดี การมองโลกในแง่ดีมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดความชะล่าใจ แล้วก็การมองในแง่ร้ายที่มากเกินไปจะนำไปสู่ความกลัว แม้ว่าสัญญาณตามระบบเทรดจะเกิดขึ้นแล้วก็ตาม ความคิดที่จะเลิกสูบบุหรี่นั้นเป็นเรื่องง่าย แต่ว่าวิธีที่จะไปถึงจุดหมายนั้นยาก อุปสรรคทางจิตวิทยาระหว่างการลงทุนและการเลิกสูบบุหรี่นั้นแทบจะไม่ต่างกันเลย

[rannie2020]

• Bookmark
• Tweet
• Share
• PM

สวัสดีค่ะ ในปัจจุบันมีมิจฉาชีพหลากหลายรูปแบบ และมีจำนวนมาก ต้องมีสติในการโอนเงินมากๆ และถ้าหากอยากรวยก็ต้องศึกษาก่อนจะลงทุนจะรวยอย่างยั่งยืนมากกว่า และวันนี้มาดู วิธีการพัฒนากลยุทธ์การเทรดด้วยตัวเองทำอย่างไร

ขั้นแรกคือศึกษากลยุทธ์การเทรดให้มากเพียงพอ จากนั้นนำไปใช้ รวมทั้งทดสอบความรู้ในบัญชีจริงเพื่อดูว่าความรู้ไหนใช้ได้จริงใช้ไม่ได้จริง ในขั้นตอนนี้ ผู้เรียนจำเป็นจะต้องอาศัยความอดทนอย่างมาก เราต้องยึดมั่นในเจตคติของการเรียนรู้ ไม่ใช่ภาพลวงตาของความร่ำรวยในชั่วข้ามคืน คุณจะได้เผชิญกับความจริงที่ว่าการทำกำไรในตอนเริ่มเป็นเรื่องยากสำหรับคนส่วนใหญ่ มีเหตุผลหลายประการที่เทรดเดอร์คนๆนึงจะล้มเหลว แล้วก็การฝันให้ใหญ่เกินไปเมื่อเทียบกับความรู้ที่มีก็เป็นหนึ่งในนั้น

ขั้นตอนที่สองเป็นการมีข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนที่เพียงพอ ข้อมูลเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับในการเทรด เหตุผลที่ถูกต้องเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะขาดทุนจากการเทรดได้ ถ้าหากข้อมูลที่มีไม่ครอบคลุม ถูกต้อง ทันเวลา การตัดสินของคุณจะแตกต่างไปจากสิ่งที่คุณคิดโดยสิ้นเชิงเมื่อลงไปอยู่ในสนามจริง และก็คุณจะกลายผู้แพ้ไปโดยที่ยังไม่ทันออกรบเลย

เพื่อให้กระบวนการเรียนรู้วิธีการเป็นเทรดเดอร์สมบูรณ์ นอกเหนือจากการยอมลงทุนซื้อข้อมูลทางการเงินในราคาสูงแล้ว คุณจะต้องพัฒนานิสัยการเป็นผู้รวบรวมข้อมูลที่ดีด้วย หมั่นติดตามข่าวตลาดต่างประเทศทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นข่าวจากรัฐบาลสหรัฐฯ ข่าวธนาคารกลาง สุนทรพจน์ของบุคคลสำคัญ การเปลี่ยนแปลงนโยบายระดับชาติ เหตุการณ์ร้อน ฯลฯ จะต้องมีการติดตามอยู่ตลอดเวลา หรือมากเท่าที่จะทำได้

อย่างไรก็ตาม การฟังข้อความเหล่านี้เพียงครั้งเดียวไม่เพียงพอ เทรดเดอร์ต้องแก้ไขส่วนสำคัญของข้อความพวกนั้น นำมาจัดเรียงในรูปแบบความคิดที่เป็นของตัวเอง ดังเช่นว่า ในพิธีรับรองประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯเมื่อเร็วๆนี้ อย่างน้อยที่สุด คุณจะต้องรู้ว่าใครกำลังจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป นโยบายการบริหารหลักๆของเขาเป็นยังไง แม้คุณไม่มีเวลาเพียงพอในการตรวจสอบข่าวเหล่านี้ การตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และตลาดหุ้นของอเมริกาจะกลายเป็นเรื่องยากทันที

ขั้นตอนลำดับที่สามคือการควบคุมอารมณ์ของคุณ การซื้อขายด้วยตัวเองนั้นอ่อนไหวต่ออารมณ์มากกว่าการมีผู้ช่วยอัตโนมัติ เพราะเหตุว่าหุ้นยนต์ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่สนใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังของการเข้ามาลงทุนของเจ้านาย ขณะที่การซื้อขายด้วยตัวเองมีแนวโน้มว่าในระยะยาว อารมณ์อาจจะขึ้นมายืนเหนือเหตุผลได้

ยกตัวอย่างเช่น แม้คุณถือทองคำตั้งแต่ราคา 1,600 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อราคาเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นมาเป็น 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ การซื้อขายอัตโนมัติจะปฏิบัติตามเงื่อนไขของระบบอย่างเคร่งครัด ตราบใดที่ราคาของทองคำไม่ถึงระดับ take-profit ที่ $2000 คุณจะไม่ได้กำไรออกไปจากตลาดแน่นอน การซื้อขายด้วยตนเองขึ้นกับความเชื่อมั่นในความคิดตัวเอง ที่มีจ่อแนวโน้มของตลาดลงทุนในอนาคต

การปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลสำหรับในการลงทุนไม่ใช่ที่ดี การมองโลกในแง่ดีมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดความชะล่าใจ แล้วก็การมองในแง่ร้ายที่มากเกินไปจะนำไปสู่ความกลัว แม้ว่าสัญญาณตามระบบเทรดจะเกิดขึ้นแล้วก็ตาม ความคิดที่จะเลิกสูบบุหรี่นั้นเป็นเรื่องง่าย แต่ว่าวิธีที่จะไปถึงจุดหมายนั้นยาก อุปสรรคทางจิตวิทยาระหว่างการลงทุนและการเลิกสูบบุหรี่นั้นแทบจะไม่ต่างกันเลย