• Bookmark
• Tweet
• Share
• PM

สวัสดีจ้า ไม่ต้องไปเที่ยวถึงต่างประเทศอากาศเมืองไทยก็เริ่มหนาว อากาศเย็นสบาย ถือว่าประหยัดค่าแอรืได้หลายบาทเลย และเพื่อนๆ สายเทรดวันนี้เรามาดูตลาด Forex ช่วงเวลาไหน น่าเทรดทำกำไรมากที่สุด เทรดเดอร์มือใหม่หลายๆท่านคงจะสงสัยกันแล้วว่า ในเมื่อตลาด forex เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง แล้วพวกเราควรจะเทรด forex เวลาไหนจึงจะเหมาะสมที่สุด? เอาละค่ะ หลักการนั้นง่ายมากๆซึ่งก็คือ ท่านควรจะเทรด forex ในตอนที่ตลาดมีความเคลื่อนไหวเยอะที่สุด ซึ่งจะรู้ได้จากการเฝ้าสังเกตตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อศึกษาว่าจังหวะใดเป็นนาทีทองสำหรับการทำกำไร แล้วก็ชั่วโมงไหนที่มีนักลงทุนต้องการทำเงินจากการซื้อขายคู่เงินมากที่สุด

นอกเหนือจากนั้น ช่วงเวลาที่ตลาดมีความเคลื่อนไหวมากๆยังเป็นจังหวะที่ราคา Bid แล้วก็ราคา Ask นั้นใกล้เคียงกันมากอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เทรดเดอร์ได้โอกาสที่จะทำกำไรได้อย่างง่ายดายในช่วงจังหวะเหล่านี้ เรียกได้ว่า จะซื้อก็ง่าย จะขายก็คล่อง!


แม้จะมีวันทำการตั้งแต่จันทร์-ศุกร์ เช่นเดียวกัน แต่ตลาด forex มี session หรือ รอบการซื้อขายทั่วโลกที่แตกต่างกันไป ทั้งหมด 15 session ตามเวลาในการเทรดที่ต่างกัน โดยชั่วโมงการเทรดในแต่ละประเทศหลักๆที่เทรดเดอร์ควรให้ความสำคัญ ได้แก่:

นิวยอร์ก: 12.00 - 22.00 น.
ลอนดอน: 7.00 - 17.00 น. (ช่วงบ่าย)
โตเกียว: 23.00 - 9.00 น.
ซิดนีย์: 22.00 - 8.00 น. (เที่ยงคืน)
แต่ละรอบการเทรดนั้นจะมีการดำเนินการแยกกัน ถึงแม้ว่าเทรดเดอร์จะสามารถเทรดสกุลเงินเดียวกันก็ตาม และก็เมื่อใดที่มีรอบการเทรดเปิดขึ้นพร้อมๆกัน ก็จะมีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก อย่างรวดเร็ว

และแน่นอนว่า ราคา bid และ ราคา ask ในแต่ละ session นั้น ก็จะส่งผลกระทบต่อราคา bid และก็ ราคา ask ใน session อื่นๆของตลาด ที่เปิดขึ้นมาคาบเกี่ยวกัน โดยเวลาที่ตลาดแต่ละ session มีความเคลื่อนไหวมากที่สุด ได้แก่

7.00 - 9.00 น. (ช่วงที่ตลาดโตเกียว และ ลอนดอน เปิดคาบเกี่ยวกัน)
23.00 - 7.00 น. (ช่วงที่ตลาดโตเกียว และ ซิดนีย์ เปิดคาบเกี่ยวกัน)
12.00 - 17.00 น. (ช่วงบ่าย)(ช่วงที่ตลาดนิวยอร์ก และ ลอนดอน เปิดคาบเกี่ยวกัน)


จากช่วงเวลาที่เรากล่าวมาทั้งหมด อาจกล่าวได้ว่า ชั่วโมงที่ดีที่สุดในการเทรด forex คือเวลา 12.00 - 17.00 น. (ช่วงบ่าย) ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวกันระหว่าง session ของลอนดอน และก็ นิวยอร์ก นั่นเอง โดยศูนย์กลางในการเทรดทั้ง 2 ที่นั้น มีปริมาณการซื้อขายมากกว่า 50% ของการเทรด forex ทั้งหมดในแต่ละวัน

และเวลาที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักนิยมเทรดกันกัน คือระหว่าง 21.00 - 22.00 น. ใน session ตลาด forex ของซิดนีย์และสิงคโปร์ ถึงแม้จะมีวอลุ่มเทรดน้อยกว่าในรอบการเทรดของนิวยอร์ก และ ลอนดอน อย่างชัดเจนก็ตาม

ที่สำคัญ นักเทรด forex จะต้องคอยติดตามข่าวสารและการเปลี่ยนแปลงต่างๆจากทั่วโลก ซึ่งบางทีอาจส่งผลกระทบให้เกิดความผันผวนของราคาในตลาด และทำให้ช่วงเวลาที่ผู้คนนิยมเข้าเทรดเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน

อาทิเช่น มีเหตุการณ์สำคัญหนึ่งเกิดขึ้นโดยฉับพลันในตอนที่ตลาดมีความเคลื่อนไหวน้อย ทำให้จู่ๆปริมาณการเทรดนั้นเพิ่มสูงขึ้น และก็ตลาดมีความผันผวนในทันทีทันใด แม้ว่าปกติแล้วในช่วงดังกล่าว ตลาดจะค่อนข้างเงียบและเคลื่อนแบบช้าๆก็ตาม


แต่ว่าอย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ควรจะเทรดอย่างระมัดระวัง แล้วก็โปรดทำความเข้าใจว่า วอลุ่มเทรดสูงๆหรือ ปริมาณการซื้อขายมากๆก็ไม่ได้เป็นปัจจัยยืนยันโอกาสสำหรับในการทำกำไรเสมอ เพราะว่าการเทรดคู่เงินนั้นมักจะมาพร้อมกับอัตราเลเวอเรจที่สูง (ระหว่าง 1000 ถึง 1) และก็ถึงแม้ว่าอัตราส่วนดังกล่าวดูเหมือนกับว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสสำหรับการทำกำไรให้เพิ่มมากขึ้นได้ แต่ว่านักลงทุนก็อาจเทรดขาดทุนได้ทั้งหมดภายในรอบเทรดเดียวเช่นกัน

[ladyMP]

• Bookmark
• Tweet
• Share
• PM

สวัสดีจ้า ไม่ต้องไปเที่ยวถึงต่างประเทศอากาศเมืองไทยก็เริ่มหนาว อากาศเย็นสบาย ถือว่าประหยัดค่าแอรืได้หลายบาทเลย และเพื่อนๆ สายเทรดวันนี้เรามาดูตลาด Forex ช่วงเวลาไหน น่าเทรดทำกำไรมากที่สุด เทรดเดอร์มือใหม่หลายๆท่านคงจะสงสัยกันแล้วว่า ในเมื่อตลาด forex เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง แล้วพวกเราควรจะเทรด forex เวลาไหนจึงจะเหมาะสมที่สุด? เอาละค่ะ หลักการนั้นง่ายมากๆซึ่งก็คือ ท่านควรจะเทรด forex ในตอนที่ตลาดมีความเคลื่อนไหวเยอะที่สุด ซึ่งจะรู้ได้จากการเฝ้าสังเกตตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อศึกษาว่าจังหวะใดเป็นนาทีทองสำหรับการทำกำไร แล้วก็ชั่วโมงไหนที่มีนักลงทุนต้องการทำเงินจากการซื้อขายคู่เงินมากที่สุด

นอกเหนือจากนั้น ช่วงเวลาที่ตลาดมีความเคลื่อนไหวมากๆยังเป็นจังหวะที่ราคา Bid แล้วก็ราคา Ask นั้นใกล้เคียงกันมากอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เทรดเดอร์ได้โอกาสที่จะทำกำไรได้อย่างง่ายดายในช่วงจังหวะเหล่านี้ เรียกได้ว่า จะซื้อก็ง่าย จะขายก็คล่อง!


แม้จะมีวันทำการตั้งแต่จันทร์-ศุกร์ เช่นเดียวกัน แต่ตลาด forex มี session หรือ รอบการซื้อขายทั่วโลกที่แตกต่างกันไป ทั้งหมด 15 session ตามเวลาในการเทรดที่ต่างกัน โดยชั่วโมงการเทรดในแต่ละประเทศหลักๆที่เทรดเดอร์ควรให้ความสำคัญ ได้แก่:

นิวยอร์ก: 12.00 - 22.00 น.
ลอนดอน: 7.00 - 17.00 น. (ช่วงบ่าย)
โตเกียว: 23.00 - 9.00 น.
ซิดนีย์: 22.00 - 8.00 น. (เที่ยงคืน)
แต่ละรอบการเทรดนั้นจะมีการดำเนินการแยกกัน ถึงแม้ว่าเทรดเดอร์จะสามารถเทรดสกุลเงินเดียวกันก็ตาม และก็เมื่อใดที่มีรอบการเทรดเปิดขึ้นพร้อมๆกัน ก็จะมีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก อย่างรวดเร็ว

และแน่นอนว่า ราคา bid และ ราคา ask ในแต่ละ session นั้น ก็จะส่งผลกระทบต่อราคา bid และก็ ราคา ask ใน session อื่นๆของตลาด ที่เปิดขึ้นมาคาบเกี่ยวกัน โดยเวลาที่ตลาดแต่ละ session มีความเคลื่อนไหวมากที่สุด ได้แก่

7.00 - 9.00 น. (ช่วงที่ตลาดโตเกียว และ ลอนดอน เปิดคาบเกี่ยวกัน)
23.00 - 7.00 น. (ช่วงที่ตลาดโตเกียว และ ซิดนีย์ เปิดคาบเกี่ยวกัน)
12.00 - 17.00 น. (ช่วงบ่าย)(ช่วงที่ตลาดนิวยอร์ก และ ลอนดอน เปิดคาบเกี่ยวกัน)


จากช่วงเวลาที่เรากล่าวมาทั้งหมด อาจกล่าวได้ว่า ชั่วโมงที่ดีที่สุดในการเทรด forex คือเวลา 12.00 - 17.00 น. (ช่วงบ่าย) ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวกันระหว่าง session ของลอนดอน และก็ นิวยอร์ก นั่นเอง โดยศูนย์กลางในการเทรดทั้ง 2 ที่นั้น มีปริมาณการซื้อขายมากกว่า 50% ของการเทรด forex ทั้งหมดในแต่ละวัน

และเวลาที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักนิยมเทรดกันกัน คือระหว่าง 21.00 - 22.00 น. ใน session ตลาด forex ของซิดนีย์และสิงคโปร์ ถึงแม้จะมีวอลุ่มเทรดน้อยกว่าในรอบการเทรดของนิวยอร์ก และ ลอนดอน อย่างชัดเจนก็ตาม

ที่สำคัญ นักเทรด forex จะต้องคอยติดตามข่าวสารและการเปลี่ยนแปลงต่างๆจากทั่วโลก ซึ่งบางทีอาจส่งผลกระทบให้เกิดความผันผวนของราคาในตลาด และทำให้ช่วงเวลาที่ผู้คนนิยมเข้าเทรดเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน

อาทิเช่น มีเหตุการณ์สำคัญหนึ่งเกิดขึ้นโดยฉับพลันในตอนที่ตลาดมีความเคลื่อนไหวน้อย ทำให้จู่ๆปริมาณการเทรดนั้นเพิ่มสูงขึ้น และก็ตลาดมีความผันผวนในทันทีทันใด แม้ว่าปกติแล้วในช่วงดังกล่าว ตลาดจะค่อนข้างเงียบและเคลื่อนแบบช้าๆก็ตาม


แต่ว่าอย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ควรจะเทรดอย่างระมัดระวัง แล้วก็โปรดทำความเข้าใจว่า วอลุ่มเทรดสูงๆหรือ ปริมาณการซื้อขายมากๆก็ไม่ได้เป็นปัจจัยยืนยันโอกาสสำหรับในการทำกำไรเสมอ เพราะว่าการเทรดคู่เงินนั้นมักจะมาพร้อมกับอัตราเลเวอเรจที่สูง (ระหว่าง 1000 ถึง 1) และก็ถึงแม้ว่าอัตราส่วนดังกล่าวดูเหมือนกับว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสสำหรับการทำกำไรให้เพิ่มมากขึ้นได้ แต่ว่านักลงทุนก็อาจเทรดขาดทุนได้ทั้งหมดภายในรอบเทรดเดียวเช่นกัน